DAY 08
คำทำนายจากไพ่
-16-
DARK NIGHT OF THE SOUL
คุณพร้อมแล้วที่จะเชื่อมต่อกับเบื้องบน การเชื่อมต่อจะเกิดขึ้นได้ คุณจำเป็นต้องละทิ้งอุปาทาน ความรู้สึกปลอดภัย และข้อจำกัดทางความคิดของคุณก่อน เพราะสำหรับ Devine สิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนเกราะที่ห่อหุ้มจิตวิญญาณของคุณไว้ ถือเป็นสิ่งขวางกั้นการเข้าถึง Devine อย่างแท้จริง คุณอาจจะรู้สึกเปราะบาง ไม่มั่นคง ในขณะที่สิ่งกีดขวางเหล่านี้กำลังถูกกำจัดออกไป ความรู้สึกเช่นนี้ เป็นตัวบ่งบอกว่า คุณกำลังเข้าสู่ คืนแห่งความมืดมิดของจิตวิญญาณ คุณจำเป็นจะต้องรู้สึกในแบบที่คุณกำลังรู้สึก แม้ว่ามันเป็นความรู้สึกที่คุณไม่ชอบสักเท่าไหร่ ขอให้รู้ว่าคุณไม่ได้ทำอะไรผิด และขอให้เข้าใจว่าคุณกำลังเข้าใกล้เบื้องบนเข้าไปทุกที
"เส้นทางแห่งจิตวิญญาณ"
ถึงแม้ว่าคุณจะอยู่บนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณในชาตินี้แล้วก็ตาม คุณสามารถไปได้ลึกกว่านั้น ซึ่งบางครั้งมันทำให้คุณรู้สึกหวาดกลัว ความคุ้นชินของคุณกับดราม่าทางอารมณ์ ทำให้คุณลังเลที่จะปล่อยในสิ่งที่คุณคุ้นชินนี้ออกไป แม้ว่าสิ่งเหล่านั้นจะทำให้คุณทุกข์ทรมานและเจ็บปวดก็ตาม นอกจากนี้ความกลัวทำให้คุณไม่กล้าเชื่อมั่นในความรัก และความรักนี้แหล่ะคือมือที่ยื่นออกมาให้ความช่วยเหลือคุณ มันอาจจะดูเป็นเรื่องไร้สาระว่าทำไมการละทิ้งความกลัว แล้วหันมาโอบอุ้มจับมือกับความรักนั้นจึงยากเย็นเหลือเกิน
หากคุณไม่เชื่อว่าความรักจะช่วยประคับประคองคุณเอาไว้ได้ การปล่อยสิ่งเหล่านั้นไปอาจจะดูเหมือนว่าคุณปล่อยให้ตัวเองร่วงลงไปสู่นรก คุณอาจจะเกิดความรู้สึกว่า นี่มันบ้าไปแล้วรึ ...ที่จะละทิ้งโลกที่คุณรู้จักไว้ข้างหลัง และก้าวข้ามไปสู่โลกแห่งความมืดมิดแห่งความลังเลสงสัยและความกลัวในตัวคุณ แต่นี่คือโอกาสที่คุณได้สัมผัสกับตัวตนอันแท้จริงดั่งเดิมของคุณ และวิถีทางที่คุณคุ้นชินจะไม่สามารถจะดำรงอยู่ในค่ำคืนอันมืดมิดนี้ได้เลย แม้คุณจะรู้อยู่แก่ใจว่าการตายของจิตวิญญาณในลักษณะนี้ เป็นไปเพื่อการเกิดของชีวิตใหม่ และจิตวิญญาณใหม่ คุณก็อาจจะยังไม่อยากเผชิญหน้ากับมันอยู่ดี
หนทางเดียวที่จะทำให้คืนแห่งความมืดมิดทางจิตวิญญาณนี้จบลงได้ก็คือการผ่านมันให้ได้ การจะอยู่รอดให้ได้คุณต้องเชื่อมั่นว่าสุดท้ายแล้วมันจะกลายร่างจากความมืดมิดไปสู่ความสว่างอันดีงามในอนาคต แม้ว่าคุณจะไม่เข้าใจว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไร เมื่อถึงเวลาที่คู่ควร คุณจะคุกเข่าลง ไม่ใช่เพื่อการสวดอ้อนวอน ขอร้อง ต่อความช่วยเหลือด้วยความสิ้นหวัง แต่จะเป็นการคุกเข่าลงด้วยความรู้สำนึก รู้คุณ ถึงความสงบในจิตใจ และการอุทิศตนที่ผ่านมาของตัวคุณเอง
แม้ว่าแรกเริ่มมันจะดูท้าทาย คืนอันมืดมิดทางจิตวิญญาณ จะกลายเป็นความดีงามที่คอยช่วยเหลือคุณ ความรักรู้ดีว่าคุณพร้อมแล้ว พร้อมที่จะรับบททดสอบทางจิตวิญญาณและได้พบกับความรักที่เปี่ยมล้นจากเบื้องบนแบบที่คุณไม่เคยได้พบเจอ แม้ว่าคุณจะรู้สึกว่าคุณต้องดิ้นรนอยู่ในขณะนี้ก็ตาม จงจำไว้ว่านี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นและยังมีความท้าทายกว่านี้ในระดับจิตวิญญาณรอคุณอยู่ คุณจะต้องเดินทางอยู่บนเส้นทางนี้เพียงลำพัง ดังนั้นการโอบรับการสนับสนุน ตลอดเส้นทางนี้ จึงเป็นสิ่งจำเป็น ผู้อื่นสามารถช่วยเป็นพยานในการกระทำของคุณและช่วยย้ำเตือนว่าคุณอยู่บนเส้นทางของความรัก สัจจธรรม และมีคนคอยสนับสนุนอยู่ แม้ว่าบางทีคุณอาจจะรู้สึกว่าถูกทอดทิ้งจาก Guide หรือ คุรุทางจิตวิญญาณภายใน แต่ในความเป็นจริงแล้วท่านอยู่เคียงข้างคุณอย่างใกล้ชิดกว่าเดิม คอยกระซิบให้กำลังใจ ให้ความหวัง ให้ความรัก จงมองเข้าไปภายใน เพื่อหาความรักที่มีอยู่แล้ว และปล่อยให้ความรักนั้นช่วยนำทางคุณผ่านค่ำคืนอันมืดมิดทางจิตวิญญาณ มันจะนำพาคุณไปสู่แสงสว่างของรุ่งเช้าอันสดใส ในเวลาที่เหมาะสมของ Divine Right Timing
คำภาวนาในวันนี้คือ
“ฉันเชื่อมั่นในความรักจากเบื้องบน”
Day 8 Exercise
สังโยชน์ตัวที่ชื่อว่า สักกายทิฐิ หรือการยึดมั่นในตนนั้น เป็นสังโยชน์ที่เอาออกยากมากที่สุดในบรรดา 3 ตัวแรก แต่ Universe ก็มีวิธีที่จะดูแลเราให้จัดการกับสังโยชน์ตัวนี้ออกไปได้อย่างน่าอัศจรรย์
เมื่อเราเดินทางเข้าสู่ Spiritual Path มาได้สักระยะหนึ่ง และ Blockages หลายอย่างได้ถูกเคลียร์ออกไปมากแล้ว เราจะเข้าสู่ Spiritual Crisis หรือ วิกฤตจิญญาณ ที่จำเป็นมากสำหรับการนำพาเราเข้าใกล้ Divine ได้มากยิ่งขึ้น Spiritual Cirsis นี้มีชื่อเรียกว่า Dark Nigh of the Soul
Dark Night of the Soul มีการพูดถึงจากหลายศาสนา ความเชื่อโบราณ และนักจิตวิทยาอย่าง Carl Jung โดยจะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป Dark Night of the Soul เป็นสภาวะที่เรา เกิดคำถามกับตัวตนของเราว่า “ฉันคือใคร?” กับความสัมพันธ์ที่เรามี หน้าที่การงานที่ทำอยู่ และรูปแบบการดำรงชีวิตของเราทั้งหมดว่า “มันคืออะไร?” อยู่ดีๆ ทุกอย่างที่มีอยู่ก็ดูไร้ความหมายไปซะงั้น... เกิดความสงสัยในความสัมพันธ์ที่มีอยู่ว่า “คนเหล่านี้เป็นใคร?” อยู่ดีๆ ก็รู้สึกว่าขาดการเชื่อมโยงทางจิตใจกับพวกเขา... เกิดความรู้สึกอ้างว้างไร้หนทาง ไม่รู้จะไปไหน ไม่รู้จะไปต่อยังไง เสมือนว่าทุกอย่างที่ทำอยู่มันหมดความหมายไปซะงั้น บุคคลที่เข้าสู่ Dark Night of the Soul จึง depress หนักมาก รู้สึกเศร้าแบบบอกไม่ถูก และไร้ที่มาที่ไป รู้สึกคิดถึงบ้านอย่างรุนแรงทั้งๆ ที่ก็อยู่บ้าน รู้สึกไม่อยากทำอะไรหรือเจอใคร นอกจากจะนั่งร้องไห้จนหมดวัน ทั้งหมดนี้คือการชำระล้างตัวตนทั้งหมดของเราที่เคยยึดมั่นไว้เป็นชีวิต
กิ๊บเคยมีประสบการณ์ กับ Dark Night of the Soul หลังจากเรียน Double Psychic Development (การพัฒนาทักษะญาณทิพย์) และ Planetary Transformation and Space Clearing (การบำบัดโลกและการส่งวิญญาณไปเกิด) อาการเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 ของการเรียน และหนักลงไปเรื่อยๆ หลังจากเรียนจบต่อไปอีก 10 วัน ร่วมเป็นเวลาราวๆ กว่า 3 อาทิตย์ที่ทุกอย่างในชีวิต ที่เคยมองว่ามันคือชีวิต สลายไปสิ้นซากจากกระบวนการรับรู้ ไม่ว่าจะเป็น...
Break Down
Break Apart
Break Into Pieces
Break Through
Break Home
Break Up
Break Career
Break Habits
Break Religion Beliefs
เพราะเราเป็นเรา เราจึงเลือกทำแบบที่ทำ และมีแบบที่มี แต่เมื่อทุกอย่างที่เคยยึดมั่นไว้ว่านี่คือตัวเราแหลกสลายไปหมดทุกอย่าง ข้าวของทุกอย่างถูกโยนทิ้ง รื้อบ้านทิ้ง เลิกกับแฟนเอาเฉยๆเลิกสอนแบบที่เคยสอน เสื้อผ้าที่เคยใส่ทั้งหมดถูกยกให้คนอื่นหมดจนตู้ว่าง... ไม่เหลือใดๆ อีกเลยที่เป็นตัวตนเก่า การค้นพบ Inner Self จึงเกิดขึ้น จนสามารถสะท้อน Inner Self ออกมาเป็นตัวเราที่แท้จริงในโลกเดิมได้
ดังนั้นการค้นพบตัวเราที่แท้จริงได้นั้น ก็คือการแหลกสลายลงไปของทุกอย่างที่เกี่ยวกับเรา คือเลิกเกี่ยวกับสิ่งที่เคยเกี่ยวทั้งหมด เพื่อพบตัวเราจริงๆ ภายในที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพ และนั่นก็แปลว่าเราได้ละสักกายทิฐิ ได้ทั้งหมดแล้ว เช่นกัน
แบบฝึกหัด
แบบฝึกหัดในวันนี้ คือการให้พวกเราฝึกจำลองสถานการณ์ที่คล้ายกับ Dark Night of the Soul ผ่านการนั่งสมาธิ เพื่อฝึกละวาง “สักกายทิฐิ” โดยเราสามารถทำกิจกรรมนี้ได้ซ้ำๆ เพื่อ ทำให้การละวางสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับเราเป็นไปได้ง่ายๆ สบายๆ และสามารถค้นพบศักยภาพอันยิ่งใหญ่ในตัวเราได้ดีขึ้น เข้าถึง Inner Self ของเราได้มากขึ้น
-
เขียนสิ่งต่างๆ ที่มีความหมายต่อชีวิตออกมา โดยแจกแจงรายละเอียดออกมาตามแกนต่อไปนี้ 6 แกน
1. ความสัมพันธ์ เช่น พ่อ แม่ สามี ลูก เพื่อนสมัยเรียน
2. หน้าที่การงาน
3. ข้าวของทุกอย่างที่มี
4. อารมณ์ที่เป็นของเราอยู่ตลอดเวลา เช่นมีความเครียดเป็นพื้นฐาน มีความกลัวความล้มเหลวเป็นพื้นฐาน
5. นิสัย และความชอบต่างๆ
6. ความเชื่อทางศาสนา เช่น เราเชื่อว่าการทำบุญช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้น ใครทำผิดอะไรกับเราไว้คนนั้นต้องใช้กรรม และเราก็ยึดถือมันไว้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต
-
เข้าสมาธิ เพื่อจินตนาการเห็นถึงการค่อยๆ สลายหายไปของสิ่งต่างๆ ที่เขียนออกมา โดยอาจเลือกมานั่งสมาธิเพียง 2-3 แกน ก่อนก็ได้ ขึ้นอยู่กับเวลาที่มี และความเหนียวแน่นในการยึดติด
-
อนุญาติให้ตัวเองได้เสียใจ ร้องไห้ และรู้สึกเคว้งคว้างตามธรรมชาติที่เกิดขึ้น จนกว่าความรู้เสียใจ depress จะหมดลงไปเอง
-
เขียนออกมาว่าสามารถทำอะไรดีๆ ได้บ้างหลังจากที่สิ่งเหล่านั้นสลายไปเรียบร้อยแล้ว
VDO
DAY 08
Oracle Message
-16-
DARK NIGHT OF THE SOUL
You are ready for a more real and radiant relationship with the Divine. Your preconceived ideas and safe, limiting beliefs may be sacrificed in order for this to happen. To the Divine, these are only the clothing of your spirit; they are impediments to the absolute intimacy the Divine seeks with you. You might feel vulnerable or uncertain as the Divine goes about stripping away these barriers. This is when you enter the Dark Night of The Soul. You understand there is nothing to rely upon but the Divine, and you will find it difficult to trust at times. This night will end, however, and the sweetness of the Divine dawning in your heart shall render all worthwhile. But for now, you are meant to feel exactly as you feel. You are not doing something wrong. You are moving closer to the Divine.
"Path of spirituality"
Even though you are already on a spiritual path this lifetime, you can go deeper. Sometimes people know this and yet are afraid. Familiar with emotional drama, they are hesitant to let go of what they know ~ even if that is emotional suffering and mental anguish. That fear prevents them from being willing to trust in the loving hand reaching out to them. It might seem silly, yet letting go of fear to take hold of the hand of Love can be extraordinary difficult.
If you don't trust that Love will hold you, letting go can seem like allowing yourself to fall into an abyss. A feeling of madness may plague you, as you wonder if you are sane to leave a known world behind you and enter into the darkness of your own doubt and fear. You sense that the old self and the familiar ways will not survive this dark night. Even if you know in your heart that this sort of spiritual death is an opening to new life, it can still be profoundly confronting.
The only way to end the Dark Night is to go through it. To endure it and know that, although you will not understand how it could be possible, it will transform itself into the sweetest grace. In time, you shall be on your knees, not in despairing prayer, dearest child of Love, but in gratitude, peace and devotion.
Though it begins as a challenge, the dark night of the soul will become a saving grace. Love knows you are ready. No matter what you may think at this moment of struggle, you are ready to take this spiritual test and emerge more in love with the Divine than ever. Remember, this is an advanced initiation and therefore challenging at a profound spiritual level. Therefore, get some support. Even though you walk the path alone, another can help bear witness to your process and remind you that you are on a noble path of empowerment, love and truth. Also, although you may feel your guidance has abandoned you, in truth they are with you ever more closely, whispering words of encouragement, hope and love. Look for the love within and let it guide you through the dark night. It will lead you faithfully, and in perfect divine timing, into the light of your sweetest morning.
Today’s Invocation
“I believe in Divine Love”
Day 8 Exercise
The Fetters name Sakkhayadhitti or holding on to oneself was the most difficult to remove from the first 3, but the Universe has a way to take care of us to get rid of this miraculously.
Once we have traveled into the Spiritual Path for a while and many of the Blockages have been cleared, we will enter the Spiritual Crisis, which is necessary for bringing us closer to the Divine. This Spiritual Crisis is known as the Dark Night of the Soul.
Dark Night of the Soul is spoken in many religions, Ancient belief and psychologists like Carl Jung, which also has been called in different names. Dark Night of the Soul is a state in which we ask ourselves questions, "Who am I?" with the relationship we have, current job. And have questions about all of our lives in life "What is this?". All of a sudden, everything seems to be meaningless… Have doubts in relationships that “Who are these people?” Suddenly lose mentally connection with them.. Create a feeling of loneliness and helplessness, don't know where to go, don't know how to move on, all of a sudden everything that I was doing had no meaning. Therefore the person who entered the Dark Night of the Soul, will be heavily depressed, feeling unspeakably sad, feeling severely homesick despite you are at your own house, don’t wanting to do anything or meet anyone, except to sit down and cry until the end of the day. All of this is the cleansing of all ourselves that have once held onto life.
I have had experience with Dark Night of the Soul after studying the Double Psychic Development and Planetary Transformation and Space Clearing (Healing the world and sending souls to the light). Symptoms started on the 3rd day of classes and continued to get harder after finishing 10 days of studie, for about 3 weeks. Everything in life used to see it as life is dissolved completely from the receiving process. Whether it is...
Break Down
Break Apart
Break Into Pieces
Break Through
Break Home
Break Up
Break Career
Break Habits
Break Religion Beliefs
Because we are who we are, so we chose to do the way we always do and always have, but when everything that we used to hold on have shattered. Everything was thrown away, demolished your own house, broke up with the boyfriend, stopped teaching as the way you used to, Given others all clothes until the closet is empty… nothing left anymore “the old self”. So the discovery of the Inner Self will happen, then the inner self can be reflected as “the true self” in the same world.
Therefore to discover our true self, is to destroy everything about us. Is to quit about all that has been ever involved. To really find ourselves that full of potential and that means that we have left Sakkhayadhitti as well.
แบบฝึกหัด
Today's exercise Is to allow us to practice simulations similar to the Dark Night of the Soul through meditation to left behind the "Sakkhayadhitti". We can do this activity repeatedly in order to help you to left everything in your life easily and possibly to discover your great potentials inside yourself and access to our inner self better.
-
Write down the meaningful things to life by breaking out the details along with the 6 topics following
1. Relationships such as parents, husband, children, school-friends etc.
2. Job duties
3. Everything you have such as things or places.
4. The emotions that we have all the time. For example, you always have stress for living life or fear and failure as fundamental.
5. Habits and liking.
6. Religious beliefs. For example, you believe that by merits making helps improve our lives, whoever does bad things to you, that person must reply Karma too. Also those beliefs you take as the basics in life.
-
Meditate to imagine all the things that you wrote down slowly disappear out of your life. You can do it by choosing 2-3 topics first, And it depends on the time you have and your adherence.
-
Allowing yourself to be sad, crying, and feeling lonely as this naturally happens. Until the sadness and depression feelings disappear on their own.
-
Write down what you can do better after those things have completely dissolved.